วันอังคารที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2554
Magic love
ไม่คิดว่าจะมีใคร
ที่จะมารักและคอยใส่ใจกับตัวฉัน
จากวันที่เราพบกัน
เธอทำให้ฉันพบวันและคืนต่างไปมากมาย
เหมือนเรามีอะไรตรงกัน
เหมือนมันเป็นวันเวลาได้เจอ พบคนที่ตรงใจ
เพราะเราคือคนมีความรัก ใช้หัวใจเพื่อค้นหา
หาจนเจอะเธอ คนที่ฉันเคยฝันมานาน
อยากบอกว่ารักของเธอเหมือนมนต์วิเศษ
A magic love I serenaded
เหมือนหัวใจโบยบินไปไกลสุดปลายฟ้า
เธอทำให้ฉันค้นพบโลกใหม่ ที่ยังไม่คุ้นตา
และต่อจากนี้ไม่ว่าต้องเจออะไร จะรักเธอจนหมดใจ
ถนนที่ฉันเคยเดิน มันดูจะนุ่มละมุน
อ่อนโยนด้วยกลีบดอกไม้
บทเพลงที่ฟังผ่านไป กลับมีความหมาย
เหมือนไม่ใช่โน้ตตัวเดิม
ฉันจะไปกับเธอ เราจะเติมเรื่องราวในใจ
ถ้ามันจะเป็นทางไกล ที่มีเธอนั้นเดินเคียงข้าง
รักเธอจนหมดใจ เธอคือทุกอย่าง
ตั้งแต่วันนี้ชีวิตเปลี่ยนไป
ยังมองไม่เห็นหนทางอื่น ฉันต้องรักเธอ
อยากบอกว่ารักของเธอเหมือนมนต์วิเศษ
A magic love I serenaded
เหมือนหัวใจโบยบินไปไกลสุดปลายฟ้า
เธอทำให้ฉันค้นพบโลกใหม่ ที่ยังไม่คุ้นตา
และต่อจากนี้ไม่ว่าต้องเจออะไร จะรักเธอจนหมดใจ
http://www.youtube.com/watch?v=lPkZy5fBuFI
http://www.siamzone.com/music/thailyric/index.php?mode=view&artist=!!e0aacdc3ecc3d5e820e1bac5e7a4&song=!!e0c1a8d4a120e0c5d4bf20284d61676963204c6f766529
มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง
สตรีนักวิทย์ศึกษาสารสกัดจากเปลือกมังคุด พบฤทธิ์จู่โจมเฉพาะเซลล์มะเร็งในร่างกาย โดยไม่สร้างความเสียหายให้เซลล์ดีที่อยู่รายรอบ มั่นใจงานวิจัยสามารถพัฒนาเป็นยามะเร็งประสิทธิภาพสูงในอนาคต
รศ.ดร.รมิดา วัฒนโภคาสิน ภาควิชาเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เปิดเผยว่า ใช้เวลากว่า 2 ปีศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งจากสมุนไพร หลังจากเชื่อว่าสมุนไพรบางชนิด อาทิ มังคุด ขมิ้นชัน ใบพุทรา สามารถต้านเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ ผลจากการทดสอบพบว่า สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยเพียง 4 มิลลิกรัมก็ตาม
สารสกัดจากเปลือกมังคุดที่นำมาใช้ในการศึกษานี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยการทดสอบพบว่า สารสกัดในปริมาณ 4 มิลลิกรัมดังกล่าว สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้กว่า 50% ของเซลล์มะเร็งทั้งหมด และจากการขยายผลนำสารสกัดไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งอื่น ก็พบว่าสามารถออกฤทธิ์ดีในการทำลายเซลล์มะเร็งลำไส้และเซลล์มะเร็งตับ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ศึกษาเทคนิคการรักษามะเร็งด้วยยีนบำบัด โดยนำสารสกัดจากมังคุดใส่ในเม็ดบีดขนาดจิ๋วระดับนาโน จากนั้นอาศัยไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนตัวและไม่เป็นอันตราย เป็นตัวนำเม็ดบีดนั้นเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถที่จะประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคเลือดจาง ส่วนสารสกัดจากสมุนไพรขมิ้นชันและใบพุทรา ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
http://www.numwan.com/health/view.asp?GID=28
รศ.ดร.รมิดา วัฒนโภคาสิน ภาควิชาเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เปิดเผยว่า ใช้เวลากว่า 2 ปีศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งจากสมุนไพร หลังจากเชื่อว่าสมุนไพรบางชนิด อาทิ มังคุด ขมิ้นชัน ใบพุทรา สามารถต้านเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ ผลจากการทดสอบพบว่า สารสกัดจากเปลือกมังคุดสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี แม้จะใช้เพียงเล็กน้อยเพียง 4 มิลลิกรัมก็ตาม
สารสกัดจากเปลือกมังคุดที่นำมาใช้ในการศึกษานี้ ได้รับการสนับสนุนจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยการทดสอบพบว่า สารสกัดในปริมาณ 4 มิลลิกรัมดังกล่าว สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้กว่า 50% ของเซลล์มะเร็งทั้งหมด และจากการขยายผลนำสารสกัดไปทดสอบกับเซลล์มะเร็งอื่น ก็พบว่าสามารถออกฤทธิ์ดีในการทำลายเซลล์มะเร็งลำไส้และเซลล์มะเร็งตับ
นอกจากนี้ นักวิจัยยังได้ศึกษาเทคนิคการรักษามะเร็งด้วยยีนบำบัด โดยนำสารสกัดจากมังคุดใส่ในเม็ดบีดขนาดจิ๋วระดับนาโน จากนั้นอาศัยไวรัสที่ถูกทำให้อ่อนตัวและไม่เป็นอันตราย เป็นตัวนำเม็ดบีดนั้นเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ ซึ่งวิธีดังกล่าวสามารถที่จะประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคเลือดจาง ส่วนสารสกัดจากสมุนไพรขมิ้นชันและใบพุทรา ยังอยู่ระหว่างการศึกษา
http://www.numwan.com/health/view.asp?GID=28
เจ้าหญิงก้อนหิน กับเจ้าชายหยดน้ำ
หลังจากผิดหวังในความรัก เจ้าหญิงก็เสียใจ นั่งนิ่งไม่เคลื่อนไหว
จนร่างกายค่อยกลาย เป็นหิน
ชายใดสามารถทนกอดก้อนหินได้ด้วยความรักจริงก้อนหินจะกลับมาเป็นเจ้าหญิงงดงามดั่งเดิม
เจ้าชายน้ำหยดอ่านแผ่นป้ายหน้าก้อนหินรูปทรงประหลาดอย่างสนใจ
"ต้องกอดนานเท่าไหร่" เจ้าชายถาม คนเฝ้าก้อนหิน
"ไม่รู้ เพราะยังไม่มีใครทนกอดได้สำเร็จสักคน" คนเฝ้าก้อนหินตอบโดยไม่เงยหน้า
"เราจะกอดเจ้าหญิงเอง"
แล้วเจ้าชายก็ค่อยๆนั่งลงบรรจงกอดก้อนหินอย่างทะนุถนอม
หนึ่งปีผ่านไป เจ้าชายน้ำหยดยังกอดก้อนหินอยู่
"นี่ท่านยังกอดก้อนหินอยู่อีกหรือ" คนเฝ้าก้อนหินรู้สึกทึ่งกับความอดทนของเจ้าชาย
"ท่านทำได้อย่างไร" "
"เพราะข้าอยู่กับปัจจุบัน" เจ้าชายเห็นคนเฝ้าก้อนหินงง เจ้าชายจึงอธิบายต่อ
"ถ้าท่านกอดก้อนหินหนึ่งวัน ท่านทำได้หรือไม่"
"สบายมาก" คนเฝ้าก้อนหินตอบโดยไม่ต้องคิด
"แล้วถ้ากอด สองวัน ล่ะ"
"อาจเริ่มเบื่อนิดๆ"
"แล้วถ้า สามวัน สี่วัน หรือสิบวันล่ะ"
"ไม่เอา ข้าไม่มีความอดทนขนาดนั้นหรอก"
"นั่นเพราะท่านไม่อยู่กับปัจจุบัน... ท่านคิดไปก่อนล่วงหน้าว่าไม่ไหว"
"ข้าไม่เข้าใจ"
"ในเมื่อท่านบอกว่ากอดก้อนหินหนึ่งวันได้สบายมาก พรุ่งนี้หรือวันต่อไป มันจะต่างกันตรงไหน มันก็เป็นแค่หนึ่งวันผ่านไปเช่นเดียวกัน"
เจ้าชายลูบก้อนหินราวกับมีชีวิต
"ในสายตาท่าน อาจจะเห็นว่าข้ากอดก้อนหินนี้มาเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ในความรู้สึกข้า
ข้าเพิ่งกอดเจ้าหญิงผ่าน 'หนึ่งวัน' มาแค่ 365 ครั้งเท่านั้นเอง"
"ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ช่างมันเถอะ ข้าต้องการรู้แค่ว่าที่ท่านกอดก้อนหินเพราะท่าน "รักเจ้าหญิงจริง หรือเพราะต้องการเอาชนะ"
"ข้ารักจริง" ปากเจ้าชายตอบโดยมือยังไม่คลายกอดจากก้อนหิน
"เอาอย่างนี้ละกันท่าน... นั่นน่ะมันแค่ก้อนหิน ส่วนข้าสิ 'เจ้าหญิงตัวจริง"
คนเฝ้าก้อนหินลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าชุดมอมแมมออก
"ข้าว่า... ท่านมากอดข้าดีกว่านะ"
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=35d671c1bd9b42c6&pli=1
จนร่างกายค่อยกลาย เป็นหิน
ชายใดสามารถทนกอดก้อนหินได้ด้วยความรักจริงก้อนหินจะกลับมาเป็นเจ้าหญิงงดงามดั่งเดิม
เจ้าชายน้ำหยดอ่านแผ่นป้ายหน้าก้อนหินรูปทรงประหลาดอย่างสนใจ
"ต้องกอดนานเท่าไหร่" เจ้าชายถาม คนเฝ้าก้อนหิน
"ไม่รู้ เพราะยังไม่มีใครทนกอดได้สำเร็จสักคน" คนเฝ้าก้อนหินตอบโดยไม่เงยหน้า
"เราจะกอดเจ้าหญิงเอง"
แล้วเจ้าชายก็ค่อยๆนั่งลงบรรจงกอดก้อนหินอย่างทะนุถนอม
หนึ่งปีผ่านไป เจ้าชายน้ำหยดยังกอดก้อนหินอยู่
"นี่ท่านยังกอดก้อนหินอยู่อีกหรือ" คนเฝ้าก้อนหินรู้สึกทึ่งกับความอดทนของเจ้าชาย
"ท่านทำได้อย่างไร" "
"เพราะข้าอยู่กับปัจจุบัน" เจ้าชายเห็นคนเฝ้าก้อนหินงง เจ้าชายจึงอธิบายต่อ
"ถ้าท่านกอดก้อนหินหนึ่งวัน ท่านทำได้หรือไม่"
"สบายมาก" คนเฝ้าก้อนหินตอบโดยไม่ต้องคิด
"แล้วถ้ากอด สองวัน ล่ะ"
"อาจเริ่มเบื่อนิดๆ"
"แล้วถ้า สามวัน สี่วัน หรือสิบวันล่ะ"
"ไม่เอา ข้าไม่มีความอดทนขนาดนั้นหรอก"
"นั่นเพราะท่านไม่อยู่กับปัจจุบัน... ท่านคิดไปก่อนล่วงหน้าว่าไม่ไหว"
"ข้าไม่เข้าใจ"
"ในเมื่อท่านบอกว่ากอดก้อนหินหนึ่งวันได้สบายมาก พรุ่งนี้หรือวันต่อไป มันจะต่างกันตรงไหน มันก็เป็นแค่หนึ่งวันผ่านไปเช่นเดียวกัน"
เจ้าชายลูบก้อนหินราวกับมีชีวิต
"ในสายตาท่าน อาจจะเห็นว่าข้ากอดก้อนหินนี้มาเป็นเวลาหนึ่งปี แต่ในความรู้สึกข้า
ข้าเพิ่งกอดเจ้าหญิงผ่าน 'หนึ่งวัน' มาแค่ 365 ครั้งเท่านั้นเอง"
"ข้าก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ช่างมันเถอะ ข้าต้องการรู้แค่ว่าที่ท่านกอดก้อนหินเพราะท่าน "รักเจ้าหญิงจริง หรือเพราะต้องการเอาชนะ"
"ข้ารักจริง" ปากเจ้าชายตอบโดยมือยังไม่คลายกอดจากก้อนหิน
"เอาอย่างนี้ละกันท่าน... นั่นน่ะมันแค่ก้อนหิน ส่วนข้าสิ 'เจ้าหญิงตัวจริง"
คนเฝ้าก้อนหินลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าชุดมอมแมมออก
"ข้าว่า... ท่านมากอดข้าดีกว่านะ"
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=35d671c1bd9b42c6&pli=1
วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554
บทความนี้อ่านแล้วชอบมากขะ คติธรรมสำหรับคู่รัก
- จงรักด้วยสมอง แต่อย่ารักจนขึ้นสมอง
- ที่ใดมีรัก (อย่างขาดสติ) ที่นั่นมีทุกข์
- ที่ใดมีรัก (อย่างมีสติ) ที่นั่นมีสุข
-ความรัก ควรถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างอนาคตที่ดีร่วมกัน ไม่ใช่เป็นตัวทำลายอนาคต
- รักแท้ที่ยั่งยืน ควรวางรากฐานอยู่บนทฤษฎี ๔ ส. กล่าวคือ
๑. สมศรัทธา มีศรัทธาเสมอกัน (เชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งเดียวกัน)
๒. สมศีลา มีศีลเสมอกัน (ไม่นอกใจซึ่งกันและกัน)
๓. สมจาคา มีความเสียสละเสมอกัน (ลืมความเป็นเธอ ลืมความเป็นฉัน หลอมกันเป็นเรา)
๔. สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน (มีระดับสติปัญญาเสมอหรือใกล้เคียงกัน)
- อย่ารักจนหน้ามืดตามัว จนมองไม่เห็นหัวกฏเกณฑ์ทางจริยธรรมของสังคม
- อย่ารักจนหน้ามืดตามัว กระทั่งมองไม่เห็นหัวของมารดรบิดาบังเกิดเกล้า
- ทุกครั้งที่มีความรัก ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ
- ที่ใดมีรัก ที่นั่น (อาจมีทุกข์) ที่ใดมีกิ๊ก ที่นั่นมีกรรม, ที่ใดมีชู้ ที่นั่นมีช้ำ
- ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า “ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์” เอาไว้เสมอ
- เลือกคนรักอย่ามองแค่หน้าตา แต่จงพิจารณาไปถึงนิสัย สติปัญญา และคุณธรรม
- ผู้ชายจงมองให้เห็นความเป็นแม่ที่มีอยู่ในผู้หญิง ส่วนผู้หญิงจงมองให้เห็นความเป็นพ่อที่มีอยู่ในผู้ชาย
- ความรักไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต อย่าอุทิศทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความรักจนเสียผู้เสียคน
- จงเรียนรู้ที่จะพัฒนาความรักจากระดับสามัญไปสู่รักที่สร้างสรรค์เพื่อ เกื้อกูลโลก เพราะมนุษย์ทุกคนมีความสามารถที่จะรักได้มากกว่าการรักตัวเอง รักแท้ที่ควรสร้างสรรค์มี ๔ ระดับ คือ
๑. รักตัวกลัวตาย (รักพื้นฐานระดับสัญชาตญาณ)
๒. รักใคร่ปรารถนา (รักอิงกามารมณ์)
๓. รักเมตตาอารี (รักอิงสายเลือดและสายสัมพันธ์)
๔. รักมีแต่ให้ (รักที่ลอยพ้นอัตตา ต้องการพัฒนาทั้งโลกให้มีความสุข)
วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554
แค่..ความผูกพันธ์
วันนี้ เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งหนึ่ง จนคิดว่าเราขาดไม่ได้… แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
สักวันเราจะรู้ว่า สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต
วันหนึ่ง หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่ที่เราคิดว่าเราพึงใจ..ปรารถนา..ต้องการ..ขาดไม่ได้ เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก
เวลา.. จะสอนเราเองว่า ความผูกพันกับสิ่งใดๆในช่วงเวลาหนึ่ง จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้นๆ อย่าได้ไปยึดติด อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตลุ่มหลง คิดเสียว่าเราโชคดีที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก
ความผูกพันก็เหมือนกับความรัก หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจากความรัก หากเรารักใครคนใดคนหนึ่งมาก เราก็จะรู้สึกว่าผูกพันมาก แต่ความผูกพันที่ว่า ไม่ได้หมายถึงการหยุดตัวเองไว้กับสิ่งนั้นๆ เพราะคนเราทุกคนย่อมผูกพันกับหลายๆสิ่ง
เปรียบเสมือน เรามีแก้วนำอยู่หนึ่งใบ ในยามเช้า…เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม พออากาศร้อนหน่อย…เราอาจต้องการน้ำเย็นๆ บางครั้งที่เราไม่สบาย…เราอาจต้องการน้ำอุ่น ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ… ต้องเติมสิ่งต่างๆ ในเวลาที่แตกต่างกัน ตามความเหมาะสม หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ แล้วเติมน้ำร้อนลงไปในทันที ในแก้วใบเดียวกัน แก้วใบนั้น..ก็จะร้าว..เริ่มแตก
ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา… ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่งนั้น..ไม่ผิด ถ้าเราค่อยๆปรับใจ..ปรับตัวของเราเอง.. ให้กลับคืนในเวลาที่ควร เพราะอย่างน้อยที่สุด..เราก็มีโอกาสได้ผูกพัน ซึ่งก็เหมือนเรามีโอกาสได้รักนั่นเอง
ถ้าคุณมีความสุขที่เห็นเค้าเดินกับคนอื่น… คือ ความรัก
ถ้าคุณเศร้า..เหงา..คิดถึงเค้า..อยากเจอ..อยากพูดคุย… คือ ความรัก
ถ้าคุณร้อนรนที่เค้าอยู่กับใครๆที่ไม่ใช่คุณ… คือ ความใคร่
อยากเก็บไว้เป็นเจ้าของคนเดียว ถ้าคุณเมามาย..เค้าลูบหลังไหล่..ดูแล… คือ ความรักที่บริสุทธิ์ใจ
ถ้าคุณเมามาย..เค้ากอดและสัมผัสร่างกาย… คือ ความใคร่จากเค้าของคุณ
ถ้าคุณเข้าหา.. แต่เค้าหนี… … คือ ความใคร่ ที่หมดเยื่อใยแล้ว
ถ้าคุณหนี.. แต่เขาวิ่งตามมา… … คือ ความรัก ที่ยังไม่มีจุดจบ
ถ้าคุณร้องไห้ให้กับคนที่ไม่มีเยื่อใยในตัวคุณ… คุณคือ คนโง่ และบ้า อย่างน่าอาย
แต่ถ้าคุณพอใจ..จงรัก..และมอบความรักให้กับเค้า… แม้มันจะไม่กลับมาหาคุณก็ตาม
จงดีใจที่ได้รักซะวันนี้.. ดีกว่าที่จะมานั่งเสียใจในวันหน้า
จงภูมิใจที่มีความใคร่.. เสน่หา เพราะมันจะไม่ย้อนกลับมาหาอีกต่อ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)